30 ธันวาคม 2556
ก่อนที่เราจะขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปสถานีคาโกะชิมะจูโอนั้น ผมมีรูปสถานีฮาคาตะตอนกลางวันครับ
และรูปต่อไปนี้ ตอนอยู่ในรถไฟฮะ
JR Kyushu (บริษัทเจ้าของรถไฟชินคังเซ็นคิวชู) เค้าก็ถ่ายรูปครอบครัวกับป้ายฮะ
ที่คาโกะชิมะ รูปข้างล่างเป็นศูนย์ถ่ายทอดจังหวัดคาโกะชิมะของ NHK
เรานั่งแท๊กซี่จากสถานีไปที่ท่าเรือคาโกะชิมะไปขึ้นเฟอร์รี่
เ่อ่อ... ขอบอกว่าเราอยู่ในเฟอร์รี่จริงๆฮะ คือเขาจัดภายในเรือไว้ดีมาก มีทั้งร้านอาหาร ทีวี ฯลฯ
และเราก็มาถึงเกาะซากุระจิมะ รูปข้างล่างนี้คือป้ายรถเมล์ทัวร์
รูปข้างบนเป็นตั๋วรถเมล์รายวัน 500 เยน ใช้ได้ตลอดวัน
ภูเขาไฟซากุระจิมะถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดคาโกะชิมะ เดิมเป็นเกาะเดี่ยวๆ แต่มาเชื่อมกับเกาะคิวชูเนื่องจากลาวาที่ไหลมาเชื่อมกันตอนปะทุครั้งใหญ่ปีไทโชที่ 3 (ค.ศ. 1914) ตอนนี้ก็ยังคุกรุ่นอยู่ และยังคงมีข่าวการปะทุหลายครั้ง (แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย)
ต่อไปนี้เป็นภาพที่ผมถ่ายรอบๆเกาะ+ยอดภูเขาไฟ
สองรูปล่างต่อไปนี้ผมถ่ายจากจุดชมวิว มียอดภูเขาไฟด้วย (แต่ตรงจุดชมวิวมีเถ้าภูเขาไฟเยอะเกิ๊น)
สองรูปข้างล่างเป็นรูปปั้นของนักดนตรีร็อคชาวญี่ปุ่น นามว่า นางาบุจิ ทสึโยชิ ที่มาแสดงคอนเสิร์ตที่ซากุระจิมะเมื่อปี 2004 รูปปั้นนี้ทำจากหินภูเขาไฟ
ที่ซากุรจิมะ มีหัวไชเท้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อว่า "ซากุระจิมะไดคง" ซึ่งหนักที่สุดถึง 45 กิโลกรัม เส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึง 50 เซนติเมตร (ไม่มีรูปคร้าบ ขอโทษด้วยนะคร้าบ)
ภาพวิวและยอดภูเขาไฟจากจุดชมวิวยุโนะฮิระ
รูปข้างบนนี้เป็นรูปปากปล่องภูเขาไฟ ข้างบนเป็นปล่องเหนือ (ดับแล้ว) ข้างล่างเป็นปล่องใต้ (ปล่องนี่แหละฮะที่คุกรุ่นอยู่) เดี๋ยวเอาภาพภูเขาไฟที่ถ่ายจากข้างบนดีกว่าให้เห็นกันชัดๆ
สามรูปข้างล่างนี้เป็นทะเลที่เกิดสงครามอังกฤษ-ซัทสึมะ (หรือเรียกอีกชื่อว่า การระดมยิงที่ซัทสึมะ) อันเนื่องมาจากเหตุการณ์สังหารพ่อค้าชาวอังกฤษ ทางอังกฤษได้เรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐบาลเอโดะ แต่รัฐบาลเอโดะไม่ยอม เรื่องจึงบานปลายกลายเป็นสงคราม ในสงครามนี้ อังกฤษได้ระดมยิงปืนใหญ่เป็นจำนวนมาก ทำให้อังกฤษชนะ ทางซัทสึมะจึงยอมจ่ายเงินค่าเสียหาย
และก็สิ้นสุดทริปในซากุระจิมะ
กลับมาที่สถานีคาโกะชิมะจูโอ
เอ...ทำไมมีเครื่องบินมาอยู่หน้าสถานีหนอ
นี่ฮะ เขาเอามาโปรโมทหนังชื่อ Eien no Zero เป็นหนังเกี่ยวกับสงคราม
จบแล้วคร้าบ พบกันวันต่อไปครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น